เกมที่1 : กระแสเงินสด

    สำหรับคุณพ่อคุณแม่ ที่กำลังมองหาบอร์ดเกมการเงินให้กับเด็กๆ คุณครูขอแนะนำ เกมนี้เลยค่า... 
   PAYDAY เป็นเกมที่จะทำให้เด็กๆได้รู้จักกับ ...

รายได้...ซึ่งในเกมนี้ก็จะมาจากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น เงินเดือน, ล็อตเตอรี่, กำไรจากการจำหน่ายสินค้า ,Jackpot ,ของขวัญวันเกิดจากเพื่อนๆ และเหตุการณ์ต่างๆในการ์ด

ค่าใช้จ่าย..จากบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะส่งมาให้เราต้องชำระในวันสิ้นเดือน แถมยังมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดให้เราต้องจ่ายเงินระหว่างเดือนอีกด้วย

ทำไมช่างเหมือนชีวิตจริงขนาดนี้??

​

เกมนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ8 ปีขึ้นไป

วิธีการเล่นค่อนข้างง่าย เพราะเป็นรูปแบบการทอยเต๋า และเดินตามช่อง

แต่ แต่ มีข้อควรระวังอย่างหนึ่ง จากมุมมองของคุณครู...

...เกมนี้อาจจะมีการทำให้เด็กๆหัวร้อนอยู่บ้าง ในตอนที่ต้องตัดสินใจเลือกเพื่อน เพื่อจ่ายเงิน ..อาจต้องมีการปรับกติกาเล็กน้อย (House Rule) เพื่อลดความกดดันของเด็กๆ ค่ะ^^

​

​

เกมที่2 : การลงทุน

    สำหรับใครที่กำลังมองหาบอร์ดเกมที่ช่วยเสริมทักษะ ด้านการลงทุนในหุ้น คุณครูขอแนะนำให้รู้จักกับเกม.. 

    Acquire    เกมนี้ตอนเปิดกล่องครั้งแรก รู้สึกเหมือนเรากำลังจะเล่น Scrabble ..เพราะอุปกรณ์ของเกมมันคล้ายมาก^^

    เด็กๆ จะได้เรียนรู้เรื่องของการ ลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทที่ถูกสร้างขึ้นจากการวางบล้อคสี่เหลี่ยม ซึ่งการวางในแต่ละรอบนั้น จะทำให้บริษัทแต่ละแห่ง ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

จากบริษัทเปิดใหม่ ที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะต้องถูกควบรวม ให้กลายเป็นบริษัทใหญ่ที่มีความมั่นคง และมูลค่าหุ้นของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น

   ผู้ถือหุ้น ก็จะได้กำไรจากการลงทุน(ซื้อตอนถูก ขายตอนแพง) แถมยังมีเงินพิเศษจากการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกด้วย

​

สำหรับเกมนี้ คุณครูคิดว่า..สิ่งที่ทำให้เด็กๆชื่นชอบคือ ..

• การได้วางบล้อค เพื่อขยายบริษัท หรือควบรวมบริษัท

• การได้บลัฟกัน เพื่อลุ้นว่าเราจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

• การสังเกตว่าจะมีใครวางบล้อคให้บริษัทใหญ่ขึ้นได้เพื่อจะได้รีบซื้อหุ้นในขณะที่ยังถูกอยู่ รวมถึงวางแผนการวางบล้อคที่เรามี

.

เกมนี้เหมาะกับเด็กอายุ12ปีขึ้นไป..แต่10ขวบก็สามารถเล่นได้แล้วนะคะ ให้คุณพ่อ คุณแม่ คุณครูช่วยให้คำแนะนำก่อน

แต่หลังจากเล่นเสร็จควรให้เด็กๆจัดเก็บให้เรียบร้อย เพราะบล๊อคแต่ละอัน มีตำแหน่งการวางเฉพาะตัวและเสี่ยงต่อการสูญหายค่า

​

​

เกมที่3 : การประมูล

    หากกำลังมองหาเกมที่ช่วยเสริมทักษะสำคัญ อย่างเช่น ทักษะการต่อรอง ต้องยกให้เกมนี้เลยค่ะ

TheEstates : Bid and Build

   เกมที่ผู้เล่นจะได้ฝึกประมูลราคา ให้ได้ชั้นสี่เหลี่ยม ,ดาดฟ้า,ใบอนุญาตนายกเทศมนตรี ,หรือคำสั่งห้าม. มาเพื่อสร้างตึก เพื่อให้เราได้ประโยชน์สูงที่สุด

ในมุมมองของคุณครู :

    เกมนี้กติกาไม่ซับซ้อน แต่เป็นเกมที่ผู้เล่นต้องคิดเยอะอยู่พอสมควร ตั้งแต่จะหยิบอะไรขึ้นมาประมูล ,แล้วของชิ้นไหน ที่จะได้ประโยชน์กับเรา หรือชิ้นไหนที่เราต้องประมูลเพื่อกำจัดหรือขัดขวางออกไป ไม่ให้เราเสียประโยชน์ เป็นต้น ซึ่งทักษะเหล่านี้เป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญด้านการเงิน เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

​

   เกมนี้จึงเหมาะกับผู้เล่นที่ประมาณระดับมัธยมขึ้นไป เพราะจะมีการใช้จิตวิทยา เชือดเฉือนกันพอสมควรค่ะ

​

​

​

เกมที่ 4 : ด้านการลงทุน

    ถ้านึกถึงอีกหนึ่งเกมการ์ดที่เล่นเพลินๆ มีหัวร้อนนิดๆ ยกให้เกมนี้เลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งเกมโปรดของคุณครูเอง

Venture

เกมนี้สอดแทรกแนวคิดด้านการลงทุนอย่างคุ้มค่า, การกระจายความเสี่ยง ได้อย่างดี โดยผู้เล่น จะมีการ์ดเงิน และการ์ดTake Over อยู่ในมือ จากนั้นนำไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ เช่น กลุ่มธุรกิจเหล็ก, น้ำมัน, รถยนต์ , ขนส่งทางรถไฟ, ขนส่งทางเรือ และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการ์ดแต่ละธุรกิจจะมีมูลค่าเงินลงทุนแตกต่างกัน ตามจำนวนตัวอักษร Alphabet : A-F ด้านบนการ์ด

การทำคะแนน

   นับจากการที่เราสามารถนำตัวอักษรตัวเดียวกัน แต่คนละประเภทธุรกิจ มาวางซ้อนกันได้ตั้งแต่3 ใบขึ้นไป แต่การลงทุนย่อมมาคู่กับ #ความเสี่ยง บางทีคู่แข่งอาจจะเข้ามาtake over ธุรกิจที่เราเพิ่งลงทุนไปก็ได้ (จุดนี้แหระที่ทำให้เกิดอาการหัวร้อนมาบ้าง ) ดังนั้นการ #กระจายความเสี่ยง ให้สามารถทำคะแนนได้หลายๆแถวจึงมีความสำคัญ

​

สำหรับมุมมองของคุณครู : เกมนี้ถึงแม้เกมจะเก่าไปนิด แต่ชวนให้ได้ฉุกคิดเกี่ยวกับการลงทุนได้เป็นอย่างดี ฝึกการตัดสินใจอย่างคุ้มค่า ไปพร้อมกับการป้องกันอย่างรัดกุม ได้ทั้งกลยุทธ์เชิงรุกและเชิงรับ

​

เกมนี้ข้างกล่องระบุว่าเล่นได้ตั้งแต่10 ขวบ แต่ถ้าอยากให้ดุเดือดหน่อย ก็แนะนำว่าให้โตขึ้นอีกนิดนึงประมาณ14กำลังดี

​

​

เกมที่5 : เงิน vs เวลา

มีเกมบางเกม ที่ไม่ได้ใช้เงินเป็นองค์ประกอบสำหรับการเล่นโดยตรง แต่คุณครูมองว่ามีนัยทางด้านการเงินแฝงอยู่ ซึ่งเป็นอีกเกมหนึ่ง ที่นำมาใช้ในการเปรียบเทียบเรื่องการบริหารเงินให้กับเด็ก

Patchwork

      เกมต่อผ้า ...ที่ผู้เล่นจะต้องนำเศษผ้าชิ้นเล็กๆ มาต่อให้เต็มผืนผ้าสี่เหลี่ยมของเรา โดยจะต้องใช้กระดุม และเวลา ในการจ่ายเพื่อซื้อชิ้นผ้านั้นๆ บางชิ้นสามารถทำให้เราได้รับกระดุมมาเพิ่มได้ โดยเราจะต้องวางแผนการต่อผ้าให้เต็มแผ่นมากที่สุด เพราะพื้นที่ว่างจะทำให้เราถูกลบคะแนน และขณะเดียวกันก็จะต้องสะสมเม็ดกระดุมให้ได้มากที่สุด

​

สำหรับมุมมองของคุณครู : มองว่า การนำกระดุมไปจ่ายเพื่อซื้อเศษชิ้นผ้า เปรียบเหมือน การลงทุน ให้ได้รับผลกลับมาที่คุ้มค่าที่สุด โดยที่การจ่ายกระดุม ก็ยังไม่ใช่ปัจจัยหลัก ยังมีเรื่อง เวลา ที่เข้ามาเป็นโจทย์ให้เราบริหารด้วย ผ้าบางชิ้นจ่ายกระดุมน้อย แต่โดนลดเวลาไปเยอะ ก็ต้องตัดสินใจดูว่าคุ้มค่าหรือไม่ รวมถึงการได้รับกระดุมกลับคืนมา ก็เปรียบเหมือน รายได้ ที่เราได้รับจากการลงทุนแลกเศษผ้ามา ทำอย่างไรจะมีรายรับเข้ามาสม่ำเสมอ ไม่ให้ ขาดสภาพคล่อง ได้

​

    เกมที่เรามองเห็นว่า เล่นง่ายๆ ไม่ซับซ้อนมาก แต่จริงๆแล้ว สามารถสะท้อนแนวคิดต่างๆได้อย่างดี

  เกมนี้เล่นไม่ยาก เริ่มได้ตั้งแต่8 ขวบ

แต่คุณครูก็นำมาฝึกเล่นกับลูก 4 ขวบได้แล้วค่ะ

เหมาะเป็นเกมสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ ที่ดีอีกเกมหนึ่งเลย

อย่างเดียวที่ไม่ชอบในเกมนี้คือ เล่นได้แค่2 คน

​

​

เกมที่6 : เสริมทักษะผู้ประกอบการ

    หากคุณพ่อ คุณแม่ ท่านใด กำลังมองหาตัวช่วยที่จะมาฝึกทักษะการวางแผน การตั้งเป้าหมาย และเรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการให้กับเด็กๆ คุณครูมี 1 เกมน่ารักๆ ที่ออกแบบโดยคนไทยมาแนะนำค่ะ

CabbageFarm

     เกมที่เด็กๆ จะได้จำลองการเป็นเจ้าของฟาร์มกะหล่ำ เก็บกะหล่ำไปขาย ตามใบสั่งซื้อที่ลูกค้าต้องการ โดยที่จะมีอุปสรรคมาขัดขวาง คือ เจ้าแกะ กับเจ้าไก่ ที่จะมาแย่งชิงกะหล่ำ และเงินจากเรา รวมไปถึงเพื่อนๆ ที่จะทำแอคชั่นกับเราได้ ใครที่มีเงินเยอะที่สุดเมื่อเกมจบ ก็จะกลายเป็นผู้ชนะ

​

สำหรับมุมมองของคุณครู : หลังจากที่นำเกมนี้มาให้เด็กๆเล่น ก็พบว่า น้องๆชอบมาก โดยเฉพาะวัยประมาณ 8 ขวบขึ้นไป เพราะอุปกรณ์การเล่นมีความมุ้งมิ้ง ภาพวาดตัวละคร หรือแม้แต่เจ้ากะหล่ำ ก็น่ารัก เลยดึงความสนใจจากเด็กๆได้ดี รวมทั้ง เป้าหมายที่ได้รับ สามารถทำสำเร็จได้ไม่ยากเกินไป เหมาะกับความอดทนและสมาธิของเด็กๆได้อย่างดี

​

เกมนี้ เหมาะกับน้องๆที่เริ่มอยากขยับจากเกมทอยเต๋า เกมการ์ด มาเป็นฝึกการวางแผน ฝึกจัดลำดับขั้นตอน อย่างเป็นระบบ เพื่อเป้าหมายเล็กๆ ข้างกล่องระบุว่าเริ่มได้ตั้งแต่10 ปี แต่คุณครูก็นำมาเล่นกับเด็กๆ7-8 ขวบได้แล้วค่ะ

​

​

เกมที่7 : การบริหารหนี้สิน

    หากจะให้พูดถึง บอร์ดเกมการเงิน ที่มีเนื้อเรื่องและตีมการเล่นที่โดดเด่น ดึงดูดความสนใจได้ดี พร้อมทั้งให้ความรู้ทางการบริหารหนี้สินได้ครอบคลุม คุณครูขอแนะนำเกมสัญชาติสิงคโปร์ เกมนี้เลยค่ะ

Debtzilla

เกมที่เด็กๆ จะได้จำลองการเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ ร่วมมือกัน ช่วยปกป้องพลเมืองจากเหล่าวายร้ายการเงิน ที่จะเข้ามาทำให้ความมั่งคั่งของพลเมืองลดลงจนล้มละลาย โดยอาวุธที่นำมาใช้คือ Gadget ต่างๆที่ผู้เล่นซื้อเพื่อมาทำให้การจัดการเหล่าวายร้ายง่ายขึ้น แต่การซื้อเครื่องมือ และการหาทางกำจัด Debzilla ต้องมาจากการวางกลยุทธ์เลือกใช้เครื่องมือทางการเงินต่างๆ เช่น เครื่องมือเพิ่มความมั่งคั่ง /ประกัน /บัตรเครดิต /การวางแผนงบประมาณ / การRefinance /สินเชื่อบ้าน /สินเชื่อเพื่อการศึกษา เป็นต้น

​

สำหรับมุมมองของคุณครู : เกมนี้มีตีมเกมที่ดึงดูดเด็กๆ มีความท้าทาย สำหรับเด็กที่เป็นสายเกมเมอร์มากๆ และมีการสอดแทรกเครื่องมือทางการเงินเป็นอย่างดี ทำให้เห็นความจำเป็นของการเป็นหนี้ที่ดี หรือถ้ามากเกินไปผลเสียที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร

แต่เกมค่อนข้างมีความซับซ้อนสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ ใช้เวลาSet up กระดาน หลายจุด และสามารถเริ่มเล่นได้ตั้งแต่ประถมปลาย แต่อาจต้องมีการปรับโหมดการเล่นให้เหมาะสม ซึ่งวิธีการเล่นของเกมก็มีโหมดพื้นฐานแนะนำให้ด้วย

ที่สำคัญ เป็นเกมแบบร่วมมือกัน ฝึกการวางแผนเป็น Teamwork ได้ดีทีเดียว

​

​